2.19.2556

เข้าค่ายลูกเสือ-เนตรนารี ม.2 '55 โรงเรียนตากพิทยาคม

เข้าค่ายลูกเสือ-เนตรนารีตั้งแต่วันที่ 24-26 มกราคม 2556
     ปีนี้พวกเราไปเข้าค่ายที่ 
กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 34(ค่ายพระเจ้าตาก) ขอบอกเลยว่าสนุกสุดๆ อะไรที่ไม่เคยทำก็ได้ทำ ฐานที่สนุกที่สุดคือ ฐานกระโดดหอ และ ฐานวัดใจ ฐานนี้เป็นอะไรที่สุดๆค่ะ น่ากลัวมาก ส่วนอาหารการกินก็อร่อยน่ะ ฝีมือเราเอง เพื่อนๆลงความเห็นว่ามื่อที่อร่อยที่สุดคือ มื้อกลางวันของวันที่สอง เพราะเป็นสปาเกตตี้ขี้เมาเบคอน(ไม่ใช่อาหารที่หรูหราน่ะ แต่ทว่าเราขี้เกียจหุงข้าว แล้วก็มันเป็นอะไรที่ทำง่ายมากๆ) เอาล่ะ คราวนี้เรามีภาพบรรยากาศอันสนุกสนานมาฝากเพื่อนๆด้วย ขอบอกว่างานนี่ไม่มีใครสวยใครหล่อ คือทุกคนหน้าดำไปหมด(เราโดนครูแกล้งเอาสีมาป้ายซะเต็มไปหมด แต่ก็ถือว่าโชคดีกว่าบางคนน่ะ บางคนนี่เหมือนเอาสีมาเทใส่ แต่มันก็เป็นอะไรที่สนุกมาก คือทุกคนในกองชอบหมดค่ะ มันทำไม่ได้ทุกวัน นานนานทีจะโดนสีบป้ายซะหมดสวย)

เข้าไปที่ลิงค์นี้ค่ะ =>http://www.facebook.com/media/set/?set=a.137475013082219.30863.100004591633375&type=3



กิจกรรม ประจำหน่วยการเรียนรู้ที่ 3


กิจกรรม ประจำหน่วยการเรียนรู้ที่ 3

1.เครือข่ายอินเทอร์เน็ตคืออะไร มีประโยชน์อะไรบ้าง
    ตอบ   เครือข่ายอินเทอร์เน็ตคือ ระบบ ที่คอมพิวเตอร์อย่างน้อย 2 เครื่องทำการเชื่อมต่อกัน โดยในการเชื่อมต่อจะมีสื่อกลางที่ใช้ในการส่งข้อมูล ซึ่งทำให้การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถใช้ทรัพยากร (Resource) ที่อยู่ในเครือข่ายร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องพิมพ์ แฟกซ์ สแกนเนอร์ ฮาร์ดดิสค์ เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก นอกจากนี้ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ยังเป็นผลดีในกรณีที่ต้องการสื่อสารข้อมูลในระยะทางไกล หรือเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่อยู่ห่างไกล เช่น ระบบอินเตอร์เน็ต ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ทั่วโลกโดยใช้เวลาเพียง น้อยนิด จากเดิมที่ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลนั้น อาจจำเป็นต้องใช้สื่อเก็บข้อมูลที่รับส่งกันภายนอก เช่น บันทึกลงแผ่นดิสก์แล้วไปส่งให้กับอีกเครื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองเวลามาก ยิ่งถ้าต้องการสื่อสารกันข้ามโลกยิ่งเป็นเรื่องลำบากและใช้เวลานานมาก แต่ในปัจจุบัน การสื่อสารผ่านสายสัญญาณของระบบเครือข่ายนั้น ทำให้การส่งข้อมูลทำได้ในเสี้ยววินาที
 ประโยชน์ ระบบ เครือข่ายคอมพิวเตอร์หนึ่งเครือข่ายจะมีการทำงานรวมกันเป็นกลุ่ม ที่เรียกว่า กลุ่มงาน (work group)  แต่เมื่อเชื่อมโยงหลายๆ กลุ่มงานเข้าด้วยกัน   ก็จะเป็นเครือข่ายขององค์กร และถ้าเชื่อมโยงระหว่างองค์กรผ่านเครือข่ายแวน ก็จะได้เครือข่ายขนาดใหญ่ขึ้น 
          การประยุกต์ใช้งานเครือข่ายคอมพิวเตอร์เป็นไปอย่างกว้างขวางและสามารถใช้ ประโยชน์ได้มากมาย ทั้งนี้เพราะระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ทำให้เกิดการเชื่อมโยงอุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน และสื่อสารข้อมูลระหว่างกันได้

2.การสืบค้นข้อมูลจากเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีวิธีการอย่างไร
     ตอบ   วิธีการค้นหาข้อมูลแบบ Index นี้ข้อมูลจะมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากกว่าการค้นหาข้อมูลด้วย วิธีของ Search Engine โดยมันจะถูกคัดแยกข้อมูลออกมาเป็นหมวดหมู่ และจัดแบ่งแยก Site ต่างๆออก เป็นประเภท สำหรับวิธีใช้งาน คุณสามารถที่จะ Click เลือกข้อมูลที่ต้องการจะดูได้เลยใน Web Browser จาก นั้นที่หน้าจอก็จะแสดงรายละเอียดของหัวข้อปลีกย่อยลึกลงมาอีกระดับหนึ่ง ปรากฏขึ้นมาให้เราเลือกอีก ส่วนจะแสดงออกมาให้เลือกเยอะแค่ไหนอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของฐานข้อมูลใน Index ว่า ในแต่ละประเภท จัดรวบรวมเก็บเอาไว้มากน้อยเพียงใด เมื่อคุณเข้าไปถึงประเภทย่อยที่คุณสนใจแล้ว ที่เว็บเพจจะแสดงรายชื่อของเอกสารที่เกี่ยวข้องกับ ประเภทของข้อมูลนั้นๆออกมา หากคุณคิดว่าเอกสารใดสนใจหรือต้องการอยากที่จะดู สามารถ Click ลงไปยัง Link เพื่อ ขอเชื่อต่อทางไซต์ก็จะนำเอาผลของข้อมูลดังกล่าวออกมาแสดงผลทันที นอกเหนือไปจากนี้ ไซต์ที่แสดงออกมานั้นทางผู้ให้บริการยังได้เรียบเรียงโดยนำเอา Site ที่มีความเกี่ยว ข้องมากที่สุดเอามาไว้ตอนบนสุดของรายชื่อที่แสดง
การค้นหาในรูปแบบ Search Engine
              วิธีการอีกอย่างที่นิยมใช้การค้นหาข้อมูลคือการใช้ Search Engine ซึ่งผู้ใช้ส่วนใหญ่กว่า 70% จะใช้วิธีการค้นหาแบบนี้ หลักการทำงานของ Search Engine จะแตกต่างจากการใช้ Indexลักษณะของมันจะเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่มหาศาลที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป บนInternet ไม่มีการแสดงข้อมูลออกมาเป็นลำดับขั้นของความสำคัญ การใช้งานจะเหมือนการสืบค้นฐานข้อมูลอื่นๆคือ คุณจะต้องพิมพ์คำสำคัญ (Keyword) ซึ่งเป็นการอธิบายถึงข้อมูลที่คุณต้องการจะเข้าไป ค้นหานั้นๆเข้าไป จากนั้น Search Engine ก็จะแสดงข้อมูลและ Siteต่างๆที่เกี่ยวข้องออกมา
 ข้อแตกต่างระหว่าง Index และ Search Engine คำตอบก็ คือวิธีในการค้นหาข้อมูลแบบ Index เค้าจะใช้คนเป็นผู้จัดรวบรวมและทำระบบฐานข้อมูลขึ้นมา ส่วนแบบ Search Engine นั้นระบบฐานข้อมูลของมันจะได้รับการจัดสร้างโดยใช้ Software ที่มี หน้าที่เกี่ยวกับงานทางด้านนี้โดยเฉพาะมาเป็นตัวควบคุมและจัดการ ซึ่งเจ้า Software ตัวนี้จะมี ชื่อเรียกว่าSpidersการทำงานข้องมันจะใช้วิธีการเดินลัดเลาะไปตามเครือข่ายต่างๆที่เชื่อมโยงถึง กันอยู่เต็มไปหมดในInternetเพื่อค้นหา Website ที่เกิดขึ้นมาใหม่ๆ รวมทั้งยังสามารถตรวจสอบหาความเปลี่ยนแปลงของ ข้อมูลใน Site เดิม ที่มีอยู่ ว่าที่ใดถูกอัพเดตแล้วบ้าง จากนั้นมันก็จะนำเอาข้อมูลทั้งหมดที่สำรวจเข้ามา ได้เก็บใส่เข้าไปในฐานข้อมูลของตนอัตโนมัติ ยกตัวอย่างของผู้ให้บริการประเภทนี้เช่น Excite , Lycos Infomercial เป็นต้น การค้นหาด้วยวิธี Search Engine นั้นมักจะได้ผลลัพธ์ออกมากว้างๆชี้เฉพาะเจาะจงได้ยาก บางครั้งข้อมูลที่ ค้นหามาได้อาจมีถึงเป็นร้อยเป็นพัน Site แล้ว มีใครบ้างหละที่อยากจะมานั้นค้นหาและอ่านดูที่จะเพจ ซึ่งคง ต้องเสียเวลาเป็นวันๆแน่ ซึ่งก็ไม่รับรองด้วยว่าคุณจะได้ข้อมูลที่คุณต้องการหรือไม่ ดังนั้นจึงมีหลักในการค้น หา เพื่อให้ได้ข้อมูลใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งจะขอกล่าวในตอนหลัง

3. ข้อควรระวังในการการสืบค้นข้อมูลจากเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมีอะไรบ้าง
  ตอบ  ในสังคมอินเทอร์เน็ตนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดีเช่นเดียวกับสังคมทั่วไปผู้ที่ไม่ระมัดระวังจึงอาจถูกล่อลวงไปในทางที่ผิดหรือก่อให้เกิดอันตรายได้ฉะนั้นเยาวชนไทยควรเรียนรู้ปัญหาและวิธีป้องกันตนเองจากภัยอันตรายเหล่านี้จากผู้
ใช้อินเทอร์เน็ตควรยึดถือปฏิบัติ  ดังนี้
               1. ไม่บอกข้อมูลส่วนตัว  เช่น  ที่อยู่  เบอร์โทรศัพท์  ชื่อโรงเรียนของตนให้แก่บุคคลอื่นที่รู้จักกันทางอินเทอร์เน็ต
               2. หากพบข้อความหรือรูปภาพใดๆบนอินเทอร์เน็ตที่มีลักษณะหยาบคายหรือไม่เหมาะสมควรแจ้งให้ผู้ปกครองทราบทันที่
                3. ไม่ควรไปพบบุคคลใดก็ตามที่รู้จักทางอินเทอร์เน็ตโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองก่อน  และหากผู้ปกครองอนุญาต
ก็ควรไปพร้อมกับผู้ปกครอง และควรไปพบกันในที่สาธารณะ
               4. ไม่ส่งรูปหรือสิ่งใดๆ ให้บุคคลที่รู้จักทางอินเทอร์เน็ต โดยมิได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองก่อน
                5. ไม่ตอบคำถามหรือต่อความกับผู้ที่สื่อข้อความหยาบคาย  และต้องแจ้งให้ผู้ปกครองทราบทันที่
                6. ควรคารพต่อข้อตกลงในการใช้อินเทอร์เน็ตที่ให้กับผู้ปกครอง เช่น กำหนดระยะเวลาในการใช้อินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ที่ผู้ปกครองอนุญาตให้เข้าได้
ในด้านข้อเสีย  แพทย์พบว่าการเล่นเกมติดต่อกันครั้งละนานๆ  มีผลเสียต่อสุขภาพปัญหาที่พบบ่อยคือ  อาการล้าของสายตา กล้ามเนื้อที่แขนคอไหล่และหลังนอกจากนี้ยังพบอาการลมชักปวดศีรษะ ประสาทหลอน บางรายมีอาการรุนแรงเข้าขั้นประสาทและกล้ามเนื้อบางส่วนเสื่อมสภาพไปและเชื่อกันว่าการติดเกมเป็นสาเหตุทางอ้อมของโรคอ้วน  เด็กบางคนที่หมกมุ่นอยู่กับการเล่นเกมมากเกินไป จนไม่สนใจเพื่อนๆ  และสังคมรอบข้าง ในที่สุดจะกลายเป็นคนขี้อายและตัดขาดจากสังคมปัญหาอีกประการหนึ่งเกิดจากเกมประเภทที่มีการใช้ความรุนแรงเกมประเภท
นี้ ทำให้เด็กมีนิสัยก้าวร้าว เข้ากันกับเพื่อนๆ  ไม่ได้ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของครูและผู้ปกครองจะต้องชี้แนะให้เด็กรู้ถึงข้อดีและข้อ เสียของการเล่มเกม  และแนะนำให้เด็กรู้จักเลือกเกมที่ให้ประโยชน์มากกว่าความสนุกเพียงอย่าง เดียว

4.จงกล่าวถึงรูปแบบการเผยแพร่สารสนเทศผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมา 2รูปแบบ
   ตอบ    1.การทำเว็บเพจ(WEB PAGE) ฝากไว้ในเว็บไซต์วิธีนี้ผู้ที่ทราบURLของเว็บเพจนั้นจะสามารถเข้าอ่านเอกสาร ที่เผยแพร่ได้โดยตรงหรือหากไม่ทราบURLแต่สามารถระบุคำสำคัญที่มีอยู่ในเว็บ เพจนั้น ก็อาจค้นหาผ่านโปรแกรมเรียกค้นข้อมูลได้จึงเป็นวิธีที่สามารถคาดหวังผลได้ มากที่สุด  
                 2.บล็อก เป็นการฝากข้อเขียนที่มีลักษณะคล้ายสมุดบันทึกส่วนบุคคล เรื่องราวที่เขียนนั้นจะไม่จำเป็นต้องเป็นบันทึกประจำวันเท่านั้น แต่จะเป็นเรื่องอะไรก็ได้ที่อยากเผยแพร่ให้ผู้อื่นได้อ่าน

5.ห้องสนทนาคืออะไร มีวิธีการใช้อย่างไร
   ตอบ   ห้องสนทนา (Chat room) เป็น ระบบที่ผู้ใช้สามารถสื่อสารโต้ตอบกันด้วยการพิมพ์ข้อความ  ห้องสนทนาจะมีอยู่ตามเว็บไซต์ต่างๆ มีทั้งแบบที่ต้องลงทะเบียนเป็นสมาชิกและแบบเปิดกว้างให้ผู้สนทนาเข้าไปโต้ ตอบกันได้โดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็มี 
          วิธีการใช้
         รูปแบบหนึ่งของห้องสนทนาจะแบ่งจอภาพที่ปรากฎแก่คู่สนทนาเป็นกรอบบนและกรอบ ล่าง  กรอบบนเป็นข้อความที่โต้ตอบกันไปมาระหว่างคนสองคน  ส่วนกรอบล่างสำหรับให้แต่ละฝ่ายพิมพ์ข้อความลงไป  เมื่อพิมพ์เสร็จแล้วคลิกที่ปุ่มSend  ข้อความจะไปปรากฎบนให้คู่สนทนาให้ทั้งสองฝ่าย มองเห็นพร้อมกัน  การสนทนาครั้งละมากกว่า 2  คน ก็สามารถทำได้  ตามปกติในห้องสนทนาของเว็บไซต์ต่างๆ จะมีผู้ดูแลทำหน้าที่ควบคุมไม่ให้มีการทำผิดกติกาที่กำหนดไว้ เช่น ไม่ให้ใช้คำที่หยาบคาย         
        นอกจากการสื่อสารด้วยการพิมพ์ข้อความแล้ว คู่สนทนายังสามารถพูดคุยกันได้  โดยเครื่องคอมพิมเตอร์ทั้งสองฝ่ายต้องมีไมโครโฟนและหูฟัง  พร้อมกับซอฟต์แวร์ที่จัดการด้านนี้โดยเฉพาะ  หากใช้ระบบปฎิบัติการ  Window XP จะมีโปรแกรมชื่อ  Window Messenger  สำหรับใช้พูดคุยกันได้โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมอื่นช่วย

6.เครือข่ายสังคมคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร จงยกตัวอย่างมา 1 แบบ
      ตอบ เครือข่ายสังคมหรือชุมชนเว็บ (Social Network or Web community) รูปแบบของห้องสนทนาถูกพัฒนาต่อมา  เป็นการใช้เพื่อให้กลุ่มคนที่มีความสนใจด้านเดียวกันมาติดต่อสื่อสารกัน  และมีการเลือกชื่อการติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายในลับกษณะนี้ว่า   เครือข่ายสังคม (Social Network) หรือ ชุมชนเว็บ (Web Community) ตัวอย่างเว็บไซต์ที่ให้บริการประเภทนี้ ได้แก่
ICQ   เป็นระบบรับส่งข้อความที่เน้นการหาคู่สนทนาที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน  ต่อมาได้ขยายบริการเป็นการสร้างกลุ่มผู้สนใจเรื่องเดียวกันที่จะมาพบปะกันบน เครือข่ายอินเทอร์เน็ต
Feadbook เป็น เว็บไซต์หาเพื่อนอีกรูปแบบหนึ่งที่เน้นการใช้รูปใบหน้าของผู้ต้องการหา เพื่อนเป็นสื่อเริ่มต้นสำหรับทำความรู้จัก  ผู้หาเพื่อนจะจัดทำข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Profile) พร้อมกับรูปใบหน้าของตนฝากไว้ที่เว็บไซต์ ปัจจุบันเว็บไซต์นี้ให้บริการหลากหลายรูปแบบ  ทั้งห้องสนทนา  กระดานข่าวสาร กลุ่มหรือชุมชนเฉพาะด้าน
Hi5 เป็น เว็บไซต์เครือข่ายสังคมที่สนับสนุนให้ผู้ใช้สร้างกลุ่มสังคมของตนเองขึ้นมาโดยจัดทำข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Profile) พร้อมกับรูปกิจกรรมของตนฝากไว้ที่เว็บไซต์และเชิญชวนคนที่ตนรู้จักให้เข้ามา เยี่ยมชมและเข้ามามีส่วนร่วมในการนำเสนอเรื่องราวในรูปแบบของข้อความสั้นและ ภาพกิจกรรม
Twitter  เป็นเว็บไซต์เครือข่ายสังคมในรูปแบบที่ผู้ที่ริเริ่มจัดทำหน้าข้อมูลส่วนบุคคล (Profile Page) ของตนฝากไว้ที่เว็บไซต์ พร้อมกับข้อความสั้น(Microblog)  ที่อาจเผยแพร่ทั่วไปหร์อเผยแพร่เฉพาะภายในกลุ่มสมาชิกตามความเหมาะสมของผู้ ริเริ่ม  ผู้ที่เข้าไปอ่านสามารถแสดงความคิดเห็นโดยพิมพ์เป็นข้อความสั้นไปฝากไว้
ประโยชน์ของเครือข่ายสังคม เช่น เป็นเครือข่ายที่เป็นการใช้งานเพื่อให้กลุ่มคนที่มีความสนใจด้านเดียวกันมาติดที่ติดต่อสื่อสารกันได้อย่างรวดเร็วและไม่เสียเวลา

12.11.2555

ลองปลูกดูนะค่ะ



ไม้ 3 อย่าง       
         ลักษณะไม้ 3 อย่าง เป็นชนิดไม้ที่มีความสัมพันธ์เกื้อกูลกับวิถีชีวิตของชุมชน คือ       
           1. ไม้ใช้สอยและเศรษฐกิจ เป็นชนิดไม้ที่ชุมชนนำไปใช้ในการปลูกสร้างบ้านเรือน โรงเรือน เครื่องเรือน คอกสัตว์เครื่องมือในการเกษตร เช่น เกวียน คันไถ ด้ามจอบ เสียม และมีด รวมทั้งไม้ที่สามารถนำมาทำเป็นเครื่องจักรสาน กระบุง ตะกร้าเพื่อนำไปใช้นำครัวเรือน และเมื่อมีพัฒนาการทางฝีมือก็สามารถจัดทำเป็นอุตสาหกรรมครัวเรือน นำไปจำหน่ายเป็นรายได้ของชุมชน ซึ่งเรียกว่า เป็นไม้เศรษฐกิจของชุมชน ได้แก่ มะขามป่า สารภี ซ้อ ไผ่หก ไผ่ไร่ ไผ่บง ไผ่ซาง มะแฟน สัก ประดู่ กาสามปีก จำปี จำปา ตุ้ม ทะโล้ หมี่ ยมหอม กฤษณา นางพญาเสือโคร่ง ไก๋ คูณ ยางกราด กระถิน เก็ดดำ มะหาด ไม้เติม มะห้า มะกอกเกลื้อน งิ้ว ตีนเป็ด ยมหอม มะขม มะแข่น สมอไทย ตะคร้อ เสี้ยว บุนนาค ปีบ ตะแบก ตอง คอแลน รัง เต็ง แดง พลวง พะยอม ตะเคียน ฮักหลวง เป็นต้น

         2. ไม้ฟืนเชื้อเพลิงของชุมชน ชุมชนในชนบทต้องใช้ไม้ฟืน เพื่อการหุงต้มปรุงอาหาร สร้างความอบอุ่นในฤดูหนาวสุมควายตามคอก ไล่ยุง เหลือบ ริ้น ไร รวมทั้งไม้ฟืนในการนึ่งเมี่ยง และการอบถนอมอาหาร ผลไม้บางชนิด ไม้ฟืนมีความจำเป็นที่สำคัญ หากไม่มีการจัดการที่ดีไม้ธรรมชาติที่มีอยู่จะไม่เพียงพอในการใช้ประโยชน์ ความอัตคัดขาดแคลนจะเกิดขึ้นดังนั้นจะต้องมีการวางแผนการปลูกไม้โตเร็วขึ้นทดแทนก็จะทำให้ชุมชนมีไม้ฟืนใช้ได้อย่างเพียงพอ ได้แก่ ไม้หาด สะเดาเป้าเลือด มะกอกเกลื้อน ไม้เต้าหลวง กระท้อน ขี้เหล็ก ตีนเป็ด ยมหอม ลำไยป่า มะขม ดงดำ มะแขว่น สมอไทย ตะคร้อต้นเสี้ยว บุนนาค ตะแบก คอแลน แดง เต็ง รัง พลวง ติ้ว หว้า มะขามป้อม แค ผักเฮือด เมี่ยง มะม่วงป่า มะแฟน กาสามปีก มันปลา นางพญาเสือโคร่ง มะมือ ลำไย รกฟ้า ลิ้นจี่


         3. ไม้อาหารหรือไม้กินได้ ชุมชนดั้งเดิมเก็บหาอาหารจากแหล่งธรรมชาติ ทั้งการไล่ล่าสัตว์ป่าเป็นอาหาร รวมทั้งพืชสมุนไพร อดีตแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์จึงเป็นแหล่งอาหารเสริมสร้างพลานามัย การปลูกไม้ที่สามารถให้หน่อใบ ดอก ผล ใช้เป็นอาหารได้ก็จะทำให้ชุมชนมีอาหารและสมุนไพร ในธรรมชาติเสริมสร้างสุขภาพให้มีกินมีใช้อย่างไม่ขาดแคลน ได้แก่ มะหาด ฮ้อสะพายควาย เป้าเลือด บุก กลอย งิ้ว กระท้อน ขี้เหล็ก มะขม มะแข่น สมอไทย ตะคร้อ เสี้ยว คอแลน ผักหวานป่า มะไฟ มะขามป้อม มะเดื่อ มะปีนดง เพกา แค สะเดา เมี่ยง มะม่วงป่า มะแฟน มะเม่า หวาย ดอกต้าง กระถินก่อเดือย หว้า กล้วย ลำไย มะกอกเกลื้อน มะระขี้นก ประคำดีควาย ตะคร้อ กระบก ผักปู่ย่า มะเฟือง แคหางค่าง ขนุน มะปราง มะหลอด คอแลน มะเม่า ส้มป่อย


ประโยชน์ 4 ประการ      
   ไม้ 3 อย่าง เมื่อปลูกไปแล้วจะก่อให้เกิดประโยชน์ 4 ประการ คือ       
  1. ในสภาพปัจจุบันป่าไม้ลดลงเป็นจำนวนมาก ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างทั่วถึง และเพียงพอ ดังนั้น เมื่อมีการปลูกไม้ที่มีความเหมาะสมและมีคุณสมบัติที่ดีเพื่อการใช้สอยและสามารถนำมาใช้เสริมสร้างอาชีพได้ โดยมีการวางแผนอย่างมีส่วนร่วมและดูแลรักษาก็จะทำให้ชุมชนมีไม้ไว้ใช้สอยอย่างไม่ขาดแคลน และจะไม่สร้างผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่และหากมีการปลูกในปริมาณที่มากพอ ชุมชนก็สามารถนำมาเสริมสร้างอาชีพเสริมได้ทำให้ชุมชนมีรายได้เสริมให้มีความอยู่ดีกินดีขึ้น

         2. ไม้ฟืนเป็นวัสดุเชื้อเพลิงพื้นฐานของชุมชน หากชุมชนไม่มีไม้ฟืนไว้สนับสนุนกิจกรรมครัวเรือน ชุมชนจะต้องเดือดร้อนและสิ้นเปลืองเงินทอง เพื่อการจัดหาแก๊สหุงต้ม หรือจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อการจัดหาวัสดุเชื้อเพลิงประเภทอื่นๆ


         3. พืชอาหารและสมุนไพรรวมทั้งสัตว์แมลง ที่ชุมชนสามารถเก็บหาได้จากธรรมชาติจะเป็นอาหารที่มีคุณค่าปลอดสารพิษ อันเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอนามัยของคนในชุมชน เป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย อีกทั้งถ้ามีปริมาณเกินกว่าที่ต้องการแล้วยังสามารถใช้เป็นสินค้าเสริมสร้างรายได้อีกทางหนึ่งด้วย


         4. เมื่อมีการปลูกไม้เจริญเติบโตเป็นพื้นที่ขยายมากเพิ่มขึ้น และมีการปลูกเสริมคุณค่าป่าด้วยพันธุ์ต่างๆ ทำให้เกิดความหลากหลายและเป็นการอนุรักษ์ดินและนํ้า รวมทั้งก่อให้เกิดการอนุรักษ์พื้นที่ต้นนํ้าลำธาร


อ้างอิง: https://sites.google.com/site/banrainarao/knowledge/tree_bank

คุณธรรมจริยธรรมในการใช้อินเตอร์เน็ต


คุณธรรมและจริยธรรมในการใช้อินเทอร์เน็ต
            ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทุกคนมีเมล์บ็อกซ์หรืออีเมล์แอดเดรสที่ใช้อ้างอิงในการ รับส่งจดหมาย  ความรับผิดชอบต่อการใช้งานอีเมล์ในระบบจึงเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องให้ความ สำคัญ เพราะจดหมายมีการรับส่งโดยระบบ ซึ่งหากมีจดหมายค้างในระบบจำนวนมากจะทำให้พื้นที่      บัฟเฟอร์ของจดหมายในระบบหมด  จะเป็นผลให้ระบบไม่สามารถรับส่งจดหมายต่อไปได้ หลายต่อหลายครั้งระบบปฏิเสธการรับส่งจดหมายเพราะไฟล์ระบบเต็ม
ดังนั้นจึงควรมีความรับผิดชอบในการดูแลตู้จดหมาย (mail box) ของตนเองดังนี้
- ตรวจสอบจดหมายทุกวันและจะต้องจำกัดจำนวนไฟล์และข้อมูลในตู้จดหมายของตนให้เลือกภายในโควต้า ที่กำหนด
- ลบข้อความหรือจดหมายที่ไม่ต้องการแล้วออกจากดิสต์เพื่อลดปริมาณการใช้ดิสก็ ให้จำนวนจดหมายที่อยู่ในตู้จดหมาย (mail box) มีจำนวนน้อยที่สุด
- ให้ทำการโอนย้ายจดหมายจากระบบไปไว้ยังพีซีหรือฮาร์ดดิสก์ของตนเองเพื่อใช้อ้างอิงในภายหลัง
- พึงระลึกเสมอว่าจดหมายที่เก็บไว้ในตู้จดหมายนี้อาจถูกผู้อื่นแอบอ่านได้ ไม่ควรเก็บข้อมูลหรือจดหมายที่คุณคิดว่าไม่ใช้แล้วเสมือนเป็นประกาศไว้ในตู้ จดหมาย 

        อ้างอิง: http://www.bkk1.in.th



1.20.2555

Hello!!ชาวโลก

Hello!!!every one.This is Looktan.A student of Takpitthayakhom school.I'm in Grade SEVEN/2(Pre-MEP Program).When I grow up I want to be a Designer.
สวัสดีค้าทุกคน><" ดิชั้นมีพระนามว่า ลูกตาล  NOW!ศึกษาอยู่ ณ โรงเรียนตากพิทยาคม ชั้นม.1/2(Pre-MEP Program)เมื่อชั้นโตขึ้นชั้นอยากเป็น นักออกแบบแฟชั่นชื่อดัง!!!!!!